เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด โดนตัดขาดจากโลกอินเตอร์เน็ต พอกลับมารู้สึกพลาดอะไรไปหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะงานสำคัญๆ อย่างการเปิดตัว Windows Phone 8 วันหยุดจึงหาเวลาว่างดูวิดีโองานเปิดตัวย้อนหลัง 2 ชั่วโมงเต็ม ถือว่าไม่ผิดหวังจริงๆ
ผมได้อ่านบทความจากหลายๆ เว็บไซต์ ทั้งไทยและเทศ พบว่ามีแค่การเกริ่นคร่าวๆ เกี่ยวกับฟีเจอร์เด่นๆ ของ WP8 เท่านั้น ไม่ได้มีการลงลึกในรายละเอียดเท่าใดนัก ผมจึงขออธิบายรายละเอียดทุกอย่างที่ไมโครซอฟต์ได้นำเสนอในงานเปิดตัว WP8 ดังนี้ครับ
=================================================================================================
งานครั้งนี้ชื่อว่า Windows Phone Summit จัดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก จุดมุ่งหมายหลักของงานคือ เผยฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้นักพัฒนาแอพได้ชมครับ ถ้าได้ดูเทปงานเปิดตัวจะเห็นว่าเกือบทั้งงานจะพูดถึงการพัฒนาแอพเยอะมาก ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ผู้บริโภคทั่วไปสัมผัสได้จริงๆ นั้นมีนิดเดียว ผู้นำเสนอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นาย Joe Belfiore ผู้ให้กำเนิด Windows Phone นั่นเอง ผมขอแบ่งประเด็นต่างๆ ออกเป็น 10 หัวข้อ แต่ละหัวข้ออาจจะสั้นยาวต่างกันไป เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
1. Shared Windows Core
ถือได้ว่าเป็นพระเอกของงานนี้เลยทีเดียวครับ เพราะ Windows Phone 8 นั้นจะเปลี่ยนไปใช้เคอร์เนล WinNT แบบเดียวกันกับ Windows 8 ซึ่งต่างจาก WP7 ที่ใช้เคอร์เนล WinCE
การเปลี่ยนไปใช้เคอร์เนลแบบเดียวกับ Windows 8 ถือเป็นการรวมสายการพัฒนา OS ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ถึงแม้จะไม่ใช่ OS ตัวเดียวกันซะทีเดียวเหมือนกรณีของ iPhone กับ iPad แต่ก็ทำให้การพัฒนาแอพและระบบปฏิบัติการทำได้ง่ายและเร็วขึ้นครับ ผมจะกล่าวถึงคำว่า
"Shared Windows Core" ตลอดบทความนี้ เพราะมันมีความสำคัญมาก ถึงกับพลิกโฉม WP ไปเลย ผมจึงได้กล่าวว่ามันเป็นพระเอกของงานยังไงล่ะครับ
การเปลี่ยนไปใช้ kernel หรือแกนกลาง os เดียวกับ Windows 8 นั้นมีข้อดีมากครับ โดยเฉพาะนักพัฒนาแอพ ที่จะสามารถพัฒนาแอพบน W8 แล้วก็นำแอพของตนมาลง WP8 ได้โดยแค่ปรับแต่งแอพเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย อีกทั้งยังมีทางเลือกในการพัฒนาแอพที่หลากหลายมากขึ้น ทุกท่านก็คงใช้ Windows PC กัน ก็น่าจะรู้ว่ามันมีโปรแกรมมากมายมหาศาลแค่ไหน นอกจากนี้
Shared Core ยังช่วยให้นักพัฒนาพอร์ตแอพจาก iOS และ Android มาลง WP8 ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วยครับ ผลประโยชน์คงไม่ตกไปที่ใคร นอกจากผู้บริโภคที่จะได้ใช้แพลตฟอร์มที่มีคุณภาพครับ
โดยสรุป การใช้แกนกลางเดียวกัน ทำให้ Windows Phone 8 จะใช้ ระบบเครือข่าย, ระบบความปลอดภัย, มัลติมีเดีย, ระบบไฟล์, และการพัฒนาแอพ ร่วมกับ Windows 8 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เสมือนว่าเป็น os พี่น้องกันครับ
2. New Hardware
WP8 นั้นจะรองรับฮาร์ดแวร์ที่ใหม่และทันสมัยมากขึ้น ดังนี้ครับ
Multi-core CPU วินโดส์โฟน 8 นั้นถูกออกแบบมาให้รองรับ CPU มากถึง 64 คอร์ ซึ่งปัจจุบัน CPU มือถือมีสูงสุดแค่ 4 คอร์เท่านั้น ฮาๆๆๆ โดย WP8 ทุกรุ่นที่จะวางขายในอนาคตนั้น จะใช้ซีพียูของ Qualcomm รุ่น Snapdragon S4 Plus ตามข่าวที่เคยลงไว้ก่อนหน้านี้ครับ
High Screen Resolution ตอนนี้ WP8 รองรับความละเอียดหน้าจอที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นถึง 1280x768 และ 1280x720 ละเอียดกว่าความละเอียดเดิมถึง 2.56 เท่า นอกจากนี้ยังรองรับความละเอียดเดิมที่ 800x480 สำหรับมือถือระดับกลาง-ล่างอีกด้วยครับ
MicroSD หลังจากที่ไมโครซอฟต์อ้างเรื่องความเร็วของการ์ดเหมือนแอปเปิลมานาน สุดท้ายก็ยอมให้ WP8 ใช้ MicroSD เก็บข้อมูลต่างๆ เช่น รูปภาพ เพลง วิดีโอ หรือแม้แต่แอพ (install แอพจาก MicroSD ได้อย่างเดียวเท่านั้น) ด้วยครับ ทำให้เราสามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังลดต้นทุนของผู้ผลิตมือถือด้วย เพราะหน่วยความจำ NAND นั้นแพงเหลือเกิน
ทางฝั่งผู้ผลิตมือถือ ไม่ได้มีแต่โนเกียเท่านั้นที่จะทำมือถือ WP8 ออกสู่ตลาด ยังมี Huawei Samsung และ HTC ด้วยครับ (LG กับ Sony ไม่ทำแล้วหรอ??)
3. Internet Explorer 10
WP8 จะใช้เวบเบราส์เซอร์ตัวใหม่ ทำงานเหมือนกับ IE10 บน Windows 8 และสามารถแจ้งเตือนเมื่อเรากำลังจะเข้าเวบที่ไม่ปลอดภัย (ไม่ได้ระบุว่า
รองรับ Flash เหมือน Windows 8 รึเปล่า?)
ไมโครซอฟต์ยังอวดอีกด้วยว่า IE10 บน WP8 รองรับ HTML มากกว่า IE9 บน WP7.5 ถึงสองเท่า แถมยังรัน JavaScript ได้เร็วกว่าเดิมถึง 4 เท่า นอกจากนั้นยังไม่พอ ผลการทดสอบยังระบุว่า เร็วกว่าบราวเซอร์บนมือถือทุกตัวในท้องตลาดอีกด้วย
4. Developer Platform
อย่างที่บอกว่างานนี้จัดขึ้นเพื่อนักพัฒนาแอพ ดังนั้นเนื้อหาในส่วนนี้จึงกล่าวในงานค่อนข้างมาก ผมจะพยายามพูดถึงในส่วนที่สำคัญๆ ก็แล้วกันนะครับ
Native Code
หนึ่งในปัญหาของการพัฒนาแอพบน WP7 คือ มันรองรับการเขียนภาษาต่างๆ น้อยมาก ทำให้นักพัฒนามีช่องทางการพัฒนาแอพน้อยและไม่สามารถทำแอพที่เจ๋งๆ เหมือน os อื่นได้ แต่ตอนนี้ WP8 รองรับทางเลือกการพัฒนาแอพมากขึ้น อาทิ C/C++, XAML C#/VB, HTML5 และ DirectX ทำให้สามารถพัฒนาแอพและเกมที่ซับซ้อนขึ้นได้มาก
นอกจากนี้ Native Code ยังช่วยให้นักพัฒนาสามารถพอร์ท app จาก iOS และ Android หรือแม้แต่ Windows รุ่นโบราณๆ ได้ง่ายมากขึ้นเยอะ เราน่าจะได้เห็นเกมจากวินโดวส์ที่อาจจะเก่าสักหน่อยมาอยู่บน Windows Phone กันเร็วๆ นี้
ตัวอย่างที่ยกขึ้นมาพูดในงานคือ ใช้เวลาในการพอร์ตเกมจาก os อื่นเพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น แต่ผมจำชื่อเกมไม่ได้แล้ว
ทางด้านการพัฒนาเกม WP8 จะรองรับเอนจิ้นเกมใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น
Havok เอนจิ้นเกมชื่อดังเบื้องหลังเกม Halo, Skyrim, Diablo III, F.E.A.R., Half-life 2, BioShock ฯลฯ เราน่าจะได้เห็น
เกมเจ๋งๆ บน WP8 ไม่น้อยหน้า os อื่น แล้วละครับ
ทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นคงจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าขาดพระเอกของงานนี้ ก็คือ
Shared Windows Core จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนมาใช้แกนกลางร่วมกับ Windows 8 นั้นทำให้พัฒนาแอพต่างๆ ได้ง่ายขึ้นมาก
นอกจากนี้หากเราพัฒนาแอพบน W8 เราก็สามารถนำแอพมาลง WP8 ได้เพียงแค่ปรับแต่งแอพเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะทั้งสอง os ทำงานบนระบบและแกนกลางเดียวกันนั่นเองครับ
Mutitasking Improvements
เป็นที่รู้กันว่าไมโครซอฟต์ได้ซื้อบริษัท Skype ไปเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้ Skype ก็ได้รวมเข้ากับระบบของ WP8 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Skype จะไม่ใช่แค่แอพเดี่ยวๆ ที่โหลดมา แต่จะรองรับการโทรผ่านเน็ต (VoIP) และวิดีโอคอลแบบเต็มประสิทธิภาพ โดยจะรันอยู่เบื้องหลังของระบบปฏิบัติการเลยครับ
นั่นแปลว่าการโทรศัพท์ผ่านเนทนั้นทำได้เหมือนโทรมือถือธรรมดาเลย โดยไม่ต้องเปิดแอพค้างไว้ตัวอย่างคือมีสายเข้ามาเหมือนมือถือเข้าปกติ แต่เราจะเห็นสัญลักษณ์ logo ของ app นั้นโชว์อยู่ที่มุมซ้ายบน แสดงให้เห็นว่าโทรมาจาก app อันไหน เมื่อเรากดรับก็จะพาเราเข้า app อันนั้นและคุยได้เลยทันที
นอกจากนี้ ยังรองรับการพัฒนาแอพเพื่อโทรออกผ่าน VoIP ทำให้นักพัฒนาสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ไปใส่ในแอพของตัวเองได้อีกด้วย
นอกจากฟีเจอร์ VoIP แล้ว แอพประเภท location-based อาทิ แอพนำทาง ก็สามารถรันอยู่เบื้องหลังระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกัน ตรงนี้มีประโยชน์มาก เช่น ถ้าเราใช้มือถือนำทางอยู่ ระบบสามารถแจ้งเตือนว่าเส้นทางข้างหน้ามีอุบัติเหตุ เมื่อมี sms หรือสายโทรซ้อนเข้ามา เราสามารถบอกเพื่อนได้ว่าเราอาจจะไปถึงช้าหน่อย แล้วเราก็สามารถกลับไปใช้ app นำทางต่อได้ครับ
New Speech Platform
หลังจากที่ Tell Me เป็นฟังก์ชั่นโดดๆ ที่ต้องเข้าผ่านปุ่มโฮมของมือถือและสั่งงานได้แค่เรื่องพื้นฐานเท่านั้น ตอนนี้นักพัฒนาสามารถนำความสามารถของ Tell Meไปใช้กับแอพตัวเองได้แล้วครับ
ตัวอย่างที่โชว์ในงานคือ แอพชื่อดังอย่าง Audible เป็นแอพที่สามารถอ่านหนังสือให้เราฟังได้ เราสามารถใช้ฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยเสียงโต้ตอบกับแอพแทนการสัมผัสด้วยนิ้วได้ เช่น สั่งให้แอพเปิดบทถัดไปของหนังสือ หรือสั่งให้อ่านหนังสือเล่มที่เราต้องการให้ฟัง ฯลฯ
Focus on Developers
ถึงแม้จะเอาใจนักพัฒนาหน้าใหม่ซะขนาดนี้ แต่ก็ไม่ลืมนักพัฒนาเก่าๆ เช่นกัน แอพทุกตัวของ WP7 สามารถใช้ได้บน WP8 ครับ ดังนั้น
แอพทั้ง 100,000 ตัวที่มีอยู่ใน marketplace สามารถใช้ได้เลยทันทีที่ WP8 วางจำหน่าย นอกจากนี้เครื่องมือในการพัฒนาแอพ WP7.5 และ WP8 ยังใช้ร่วมกันได้ด้วย
5. Sharing with NFC
ในที่สุด WP8 ก็รองรับ NFC เสียที ซึ่งฟีเจอร์หลักของ NFC ก็คงหนีไม่พ้นการแตะแล้วแชร์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ใช่แค่มือถือเท่านั้น แต่รวมถึงแท็บเล็ต โน้ตบุ๊ค หรืออุปกรณ์ต่างๆ สุดแล้วแต่จะใส่ชิป NFC เข้าไป เรามาดูกันครับว่ามันทำอะไรได้บ้าง
Transfer Data
ฟังก์ชั่นที่พื้นฐานสุดๆ ของ NFC ก็คือ นำมือถือไปแตะวัสดุต่างๆ ที่มี NFC tag เพื่อรับข้อมูล แน่นอนว่า WP8 ก็ทำได้
ในงานคุณ Joe ได้ยกตัวอย่าง นำมือถือ WP8 ไปแตะกับหน้าโฆษณานิตยสาร แล้วข้อมูลผลิตภัณฑ์ก็มาปรากฎบนมือถือของเราเลย หรือเอามือถือไปแตะนามบัตร ข้อมูลรายชื่อก็เข้ามาอยู่ในมือถือของเราทันที ไม่ต้องพิมพ์ให้ยุ่งยาก ถือว่าสะดวกมากๆ ซึ่งเราสามารถนำ NFC ไปประยุกต์ใช้ได้อีกมากเลยทีเดียวครับ
TAP+SEND
ฟังก์ชั่นที่มีบน Symbian มานานแสนนานอย่างการ "แตะแล้วแชร์" ก็มาโผล่บน WP8 แล้วครับ ไมโครซอฟต์เรียกมันเก๋ๆ ว่า
TAP+SEND เราสามารถนำมือถือ WP8 ไปแตะมือถือ WP8 อีกเครื่องเพื่อส่งข้อมูล/รูปภาพ/เว็บไซต์ ระหว่างกันได้ หรือแม้แต่นำไปแตะแท็บเล็ต Windows 8 แล้วส่งข้อมูลก็ยังได้ ไม่ต้อง pair บูลทูธให้ยุ่งยาก
Cross-device Apps Communication
นอกจาก NFC จะสามารถแตะเพื่อรับส่งข้อมูลได้แล้ว app ต่างๆ ยังทำงานระหว่างอุปกรณ์ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ผมเล่นเกมครอสเวิร์ดในมือถือ WP8 อยู่ แล้วผมก็อยากให้เพื่อนที่มีแท็บเล็ต W8 มาเล่นแข่งกัน ผมก็แค่เอามือถือของผม ไปแตะแท็บเล็ตของเค้า แค่นี้เราก็เล่นครอสเวิร์ดแข่งกันได้แล้วครับ เจ๋งจริงๆ
ทั้งนี้ต้องชื่นชนความสามารถของ
Shared Windows Core ที่ทำให้ WP8 และ W8 ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้นครับ
6. Wallet Hub
Wallet เป็น Hub ใหม่บน WP8 ซึ่งจะรวมระบบการจ่ายเงินที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ระบบปฏิบัติการมือถือทุกตัวเคยมีมา มันดีเพอร์เฟคยังไงนั้น ต้องไปดูกันครับ
Banking Account
Wallet แปลว่า "กระเป๋าตังค์" ซึ่งก็ต้องรวมเรื่องเงินๆ ทองๆ เอาไว้ ดังนั้น Wallet Hub จึงเป็นศูนย์กลางในการจ่ายเงินผ่านมือถือ WP8 ครับ โดยเราสามารถรวมบัญชีเงินฝาก, PayPal, บัตร Credit หรือแม้แต่บัตร ATM เข้ามาไว้ใน Hub แห่งนี้
เราสามารถเรียกดูยอดเงินคงเหลือได้ เพื่อนก็สามารถแจ้งเตือนเข้ามาทาง Hub ว่าคืนเงินที่ยืมไปได้แล้ว 555+ และเราก็สามารถโอนเงินให้เพื่อนได้ ซึ่ง Wallet Hub สามารถทำงานร่วมกับ app ที่ธนาคารทำขึ้นมาได้ด้วยครับ
อย่าเพิ่งงงนะครับ ว่าจะเอาเงินไปซื้อของผ่านมือถือได้ยังไง อ่านต่อเลยครับ
In-app Purchase
ขึ้นชื่อว่ามือถือ ก็ต้องโหลดแอพ เราสามารถใช้เงินใน Wallet Hub ของเราในการซื้อแอพได้ด้วย โดย WP8 รองรับการซื้อแอพแบบ in-app purchase แล้วครับ
ยกตัวอย่างเช่น Inrix เป็นแอพฟรี แต่เราสามารถจ่ายเงินเพื่ออัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น Pro ได้ เราก็ใช้ฟังก์ชั่น in-app purchase อัพเกรดผ่านตัวแอพเลย ไม่ต้องเข้า marketplace ไปโหลดใหม่ แล้วก็ใช้บัญชีเงินใน Wallet Hub ซื้อได้ทันทีครับ
ข้อดีของ in-app purchase อีกอย่าง คือ เราสามารถใช้งานระบบสมัครสมาชิกรายเดือนของนิตยสารได้แล้วครับ (ผมเดาว่าในอนาคต ไมโครซอฟต์จะออก Book Hub มาแน่ๆ)
จับจ่ายใช้สอยง่ายยังงี้ หลายๆ ท่านคงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย การใช้จ่ายผ่าน Wallet Hub ต้องใส่ Pin Code ทุกครั้งเหมือนในรูปครับ
Deals
นอกจากจะโอนเงิน เช็คยอด ซื้อแอพ ได้แล้ว เรายังสามารถใช้เงินใน Wallet Hub ซื้อดีลได้ด้วยนะ
หลายๆ ท่านน่าจะเคยซื้อดีลของ Ensogo กัน ของลดราคาเพียบ เป็นใครใครก็ซื้อ อย่างเช่นตัวผมเอง เดือนหนึ่งซื้อหลายดีลมากๆ แล้วก็ต้องมาปวดหัว เพราะต้องปริ้นท์ดีลไปโชว์ที่ร้านค้า บางทีไปที่ร้านก็ลืมปริ้น์ เสียเวลา แล้วบางดีลก็หมดอายุเร็วมาก ยังไม่ทันได้ใช้เลย
ดังนั้น Wallet Hub จะมาจัดการปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปครับ โดยเมื่อเราซื้อดีลผ่านมือถือ WP8 มันจะรวบรวมรายการดีลทุกอย่างที่เราซื้อไว้ในที่เดียวกัน ไม่ว่าเราจะซื้อดีลจากเจ้าไหนก็ตาม แล้วก็จะโชว์รายละเอียดของดีลนั้น ทำให้เราจัดการดีลที่ซื้อมาได้ดีขึ้น เมื่อเรานำดีลไปใช้ที่ร้านค้า ก็แค่โชว์ QRCode หรือแตะ NFC เท่านั้น ไม่ต้องปริ้นท์ให้ยุ่งยาก
โอ้ ...ผมตกหลุมรัก Wallet Hub แล้วละครับ
Membership Cards
ไม่ใช่แค่การจับจ่ายใช้สอยเท่านั้นที่ Wallet Hub ทำได้ แต่เรายังสามารถรวบรวมบัตรสมาชิกร้านค้าต่างๆ ไว้ในนี้ได้ด้วยครับ
อย่างเช่นที่ยกตัวอย่างในงาน คือ บัตรสมาชิกห้องสมุด เมื่อไปยืมหนังสือ ผมก็เอามือถือไปยืมหนังสือผ่านการสแกน bar code ได้เลย ไม่ต้องพักบัตรให้ยุ่งยาก
"Tap to Pay" with NFC
ทุกวันนี้ ช่องทางการจ่ายเงินที่สะดวกและทันสมัยที่สุดนอกเหนือจากบัตรเครดิตแล้ว คงหนีไม่พ้นการใช้มือถือแตะแล้วจ่ายเงิน และด้วยเทคโนโลยี NFC ทำให้มือถือ WP8 สามารถใช้ฟังก์ชั่น
Tap to Pay เพื่อจ่ายเงินเพียงแค่แตะมือถือเท่านั้น
ฝั่ง Android ได้เริ่มใช้การจ่ายเงินผ่านมือถือมาพักหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้รับความนิยมซักเท่าไหร่ เนื่องจากกูเกิลไม่ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือในการพัฒนาระบบการจ่ายเงิน ทำให้ร้านค้าหลายแห่งยังไม่มีความเชื่อมั่นในการจ่ายเงินผ่านมือถือ
ไมโครซอฟต์ได้พัฒนาระบบการจ่ายเงินผ่านมือถือที่ใช้ Secured SIM ที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งนำร่องโดยเครือข่าย Orange ในประเทศฝรั่งเศสมาได้พักหนึ่งแล้ว และปัจจุบันไมโครซอฟต์ก็ได้ร่วมมือกับเครือข่ายใหญ่ๆ ในสหรัฐอเมริกาอีกหลายค่าย เช่น AT&T, T-Mobile นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับองค์กรที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่าง ISIS ของอเมริกา เพื่อให้การจ่ายเงินผ่านมือถือเป็นที่ยอมรับมาขึ้นในอนาคตครับ
คาดว่า การจ่ายเงินผ่านมือถือนี้น่าจะเห็นแพร่หลายมากขึ้นในปีหน้าครับ
ผมขอยกตัวอย่างการใช้งาน Wallet Hub และ NFC ในชีวิตประจำวันนะครับ ดูวิดีโอได้เลย
สองสามีภรรยาเห็นดีลร้านอาหารในมือถือ โฆษณาว่าเด็กๆ ทานฟรี จึงอยากพาลูกๆ มารับประทานอาหารตามประสาครอบครัว เธอจึงสั่งซื้อดีลผ่านมือถือ เมื่อมาถึงร้านอาหารเธอก็ใช้มือถือแตะกับแท็บเล็ตของบริกร แล้วบนแท็บเล็ตก็ปรากฏชื่อของเธอขึ้นมาว่าเป็นผู้ที่ซื้อดีลไว้ ในขณะเดียวกันร้านค้าก็ส่งข้อมูลเมนูอาหารเข้ามือถือของเธอ เมื่อสั่งอาหาร บริกรก็ป้อนรายการอาหารลงบนแท็บเล็ตของทางร้านค้า และเมื่อถึงเวลาจ่ายเงิน เธอก็เพียงแค่แตะมือถือเท่านั้น
7. Nokia Map Technology
ณ จุดนี้ต้องโบกมือลา Bing Map อย่างเป็นทางการ เพราะ Nokia Map จะมาเป็นแผนที่หลักของ Windows Phone 8 และรองรับระบบนำทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญรองรับการทำงานแบบ offline (ไม่ต้องต่อเน็ต)
นอกจากนี้ Nokia Drive จะใช้ได้กับ WP8 ทุกรุ่นไม่ใช่เฉพาะ Nokia Lumia เท่านั้น และนักพัฒนา app สามารถนำแผนที่ใน Nokia Map ไปใช้ใน App ของตัวเองได้ด้วยครับ
เปิดให้คนอื่นใช้ได้หมดขนาดนี้ ต้องรอดูว่าโนเกียจะมีมัดเด็ดอะไรสำหรับ Nokia Map บนมือถือตระกูล Lumia ครับ
8. WP8 for Business
WP8 ไม่ใช่แค่เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมุ่งเป้าไปที่การใช้งานในองค์กร ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ BlackBerry และ iOS ที่กำลังคลืบคลานเข้ามากินส่วนแบ่งไปอย่างช้าๆ
สำหรับธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยสูง Windows Phone 8 รองรับ secure boot และเทคโนโลยี Bitlocker นอกจากนั้นยังสามารถจัดการ app ได้เองในบริษัทไม่ต้องผ่าน Marketplace ด้วย
ความเจ๋งไม่ได้หมดแค่ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสุดยอด หรือการจัดการอุปกรณ์ผ่านระบบทางไกลครับ ไมโครซอฟต์ได้เปิดตัวฮับใหม่บน WP8 ไปดูกันเลยครับ
Company Hub
บริษัทสามารถพัฒนา Company Hub ขึ้นเป็นของตัวเอง และสามารถพัฒนาแอพขึ้นใช้งานเองได้ โดย Hub นี้จะรวมข้อมูลทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัวของเรา ใช้วันหยุด/วันลาไปเท่าไหร่แล้ว บอกว่ามีเมล์ใหม่กี่ฉบับ บอกตารางการทำงานล่วงหน้า บอกว่าสมาชิกในทีมอยู่ที่ไหนบ้างตอนนี้ ฯลฯ
นอกจากนี้บริษัทยังสามารถส่งข่าวสารใหม่ๆ มาให้เราอ่าน หรือแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ ผ่าน Hub ได้ เช่น เตือนให้เราเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ภายใน 2 วัน หรือบอกให้เราติดตั้ง app ใหม่ๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน เป็นต้น
โดยส่วนตัว ผมว่าแนวคิดของ Hub นี้เจ๋งมากๆ เลย ตั้งแต่ Wallet Hub จนมาถึง Company Hub ถือว่าโดนใจผมมากๆ เพราะบริษัทผมใช้ iPhone/BB ในการทำงาน ซึ่งมันต้องติดตั้ง App โดดๆ แยกกันเวลาใช้งาน จะดูข้อมูลก็ต้องเข้าแอพโน้นทีแอพนั้นที ยุ่งยากมาก จะลงแอพหรือเครื่องมีปัญหาก็ต้องวิ่งไปให้ IT จัดการให้ สุดท้ายก็รำคาญ ไม่ใช้มันเลยง่ายที่สุด แต่ถ้ามี Hub ก็ไม่ต้องเข้าทีละแอพให้วุ่นวาย และ IT ก็น่าจะจัดการอุปกรณ์เราจากระบบทางไกลได้อีกด้วย ...แต่ว่าเมื่อไหร่ผมจะได้ใช้เนี่ย??
9. New Start Screen
WP8 นั้นเปลี่ยนหน้าตา home ใหม่ โดยจะตัดพื้นที่ว่างและลูกศรด้านขวามือออกไป
Live Tile ยังคงคอนเซปเดิมคือ icon + widget + notification นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่คือ เราสามารถปรับขนาดเองได้มากขึ้นถึงสามขนาด (เล็ก กลาง ใหญ่)
ผมว่า Screen ใหม่ดูสวยแปลกตาดี ทำให้เราสามารถออกแบบหน้าจอได้มากมายหลายแบบมากขึ้น แล้วไอคอนเล็กๆ ยังสามารถเอามาเรียงกันเป็นกลุ่มเหมือน Folder ได้อีกด้วย
แต่ถ้าท่านใดคิดว่ามันรกหูรกตา อยากได้แบบเดิม ก็ปรับขนาดให้มันเป็นขนาดกลาง แล้วก็เรียงเป็น 2 คอลัมน์ให้เหมือน WP7 ก็ได้ครับ (รูปขวามือล่าง)
ว่าแต่ App List มันอยู่ไหน???
10. Others
ประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ WP8 มีดังนี้ครับ
Language
ปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้ทั่วโลกบ่นอุบคือ Windows Phone ยังไม่รองรับหลายๆ ภาษา แต่ตอนนี้ WP8 รองรับภาษาต่างๆ มากขึ้นอีก 50 ภาษา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือภาษาไทยครับ ดูสไลด์เป็นหลักฐานได้เลย
Update
ตอนนี้อัพเดตของ Windows Phone 8 จะทำผ่าน OTA ได้แล้ว โดยไมโครซอฟท์และคู่ค้า (เข้าใจว่าทั้งผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และผู้ให้บริการเครือข่าย) จะสนับสนุนการอัพเดตให้เครื่องวินโดวส์โฟนอย่างน้อย 18 เดือนหลังการวางจำหน่าย และจะมีโครงการเปิดให้นักพัฒนาทดลองใช้อัพเดตใหม่ก่อนที่ไมโครซอฟท์และคู่ค้าจะแจกจ่ายให้ลูกค้าทั่วไปด้วยครับ
Windows Phone 7.8
เป็นที่น่าเสียดายว่า WP7.5 ที่วางขายอยู่ในปัจจุบันจะไม่สามารถอัพเดตไปเป็น WP8 ได้ เพราะการเปลี่ยนแกนกลาง หรือเจ้า Shared Windows Core พระเอกของงานนี้แหละครับ แต่ไมโครซอฟต์ก็ออกอัพเดต WP7.8 ให้ ซึ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือ เปลี่ยนหน้า Home Screen ให้เหมือน WP8 แต่ฟีเจอร์อื่นๆ ยังไม่รู้จะได้หรือเปล่า
โนเกียออกมาบอกแล้วว่า
มือถือ Lumia ทุกรุ่นที่วางขายไปแล้วจะอัพเดตให้เป็น WP7.8 อย่างแน่นอน จนถึงตอนนี้ก็มีแต่โนเกียเท่านั้นก็ออกมาประกาศการอัพเดต WP7.8 ยี่ห้ออื่นยังลูกผีลูกคนอยู่ว่าจะอัพเดตให้ลูกค้าหรือไม่ แต่คุณ Greg Sullivan ตัวแทนจากไมโครซอฟต์ก็ออกมาให้สัมภาษณ์แล้วว่าจะพยายามทำให้มือถือ WP7.5 ทุกรุ่นอัพเป็น WP7.8 ครับ
ผมพอจะทราบว่าการที่แบ่ง WP7.8 กับ WP8 ออกจากกัน ทำให้นักพัฒนาไม่สับสนว่า จะเลือกพัฒนาแอพบนแพลตฟอร์มไหน แต่ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีว่า ทำไมไมโครซอฟต์ไม่บอกไปเลยว่า
"WP7.5 อัพเป็น WP8 ได้ แต่ตัดฟีเจอร์บางอย่างออก" มันน่าจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกดีขึ้นมากกว่านี้ เพราะตัวเลข 7.8 กับ 8 มันให้ความรู้สึกที่ต่างกันมาก อย่างเช่น Apple เค้าก็บอกว่า iPhone 3GS อัพเป็น iOS6 ได้ แต่ฟีเจอร์ใหม่ๆ หายเพียบ
ตอนนี้ไมโครซอฟต์ก็ยังไม่ได้แถลงว่า 7.8 กับ 8 ต่างกันอย่างไรบ้าง นอกจาก kernel และตัวฮาร์ดแวร์ใหม่ที่อัพเกรดไม่ได้จริงๆ อีกทั้งยังไม่บอกอีกด้วยว่าจะเอายังไงต่อไปกับ WP7.8 จะปล่อยทิ้งเลย? หรือจะเอามาทำตลาดเป็นมือถือระดับกลาง-ล่าง ควบคู่ไปกับ WP8? ผู้บริโภคอย่างเราก็ต้องคอยตามข่าวกันต่อไปครับ
Apps
ไมโครซอฟต์คอนเฟิร์มแล้วครับว่า Windows Phone มีแอพกว่า 100,000 ตัวแล้ว นอกจากนี้ยังได้
Zynga เจ้าพ่อเกมออนไลน์บนมือถือมาร่วมพัฒนาเกมบน WP ด้วยครับ
================================================================================================
Summary
กล่าวโดยสรุป Windows Phone 8 มีการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ครั้งใหญ่ ใช้ชิปเซ็ทที่ทันสมัยขึ้น หน่วยประมวลกราฟิกดีขึ้น ใช้สถาปัตยกรรมระดับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล รองรับจอภาพที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมี NFC และรองรับรูปแบบการเก็บข้อมูลหลากหลายขึ้นอีกด้วยครับ
ดังนั้น สิ่งที่ผู้บริโภคจะได้เห็นในมือถือ WP8 ที่จะวางขายในอนาคตคือ อุปกรณ์ที่ทำงานได้รวดเร็วขึ้น มีเกมและแอพเจ๋งๆ ต่างๆ มากมาย ส่วนนักพัฒนาแอพก็สามารถใช้ประโยชน์ได้จากมัลติทาสกิ้งที่ปรับปรุงใหม่ ฟังก์ชั่นการสั่งงานด้วยเสียง และยังมีทางเลือกในการพัฒนาแอพมากขึ้นอีกด้วยครับ ทางด้านลูกค้าฝั่งองค์กรก็คงจะแฮปปี้เช่นกัน ที่ WP8 รองรับการทำงานทุกรูปแบบที่จำเป็นต่อการใช้งานในองค์กร
ถือได้ว่า Windows Phone 8 นั่นพัฒนาก้าวข้ามไปจาก WP7 มากจริงๆ อย่างไรก็ตาม งานในครั้งนี้ ไมโครซอฟต์เผยให้เราดูแค่บางส่วนของ WP8 เท่านั้น เราน่าจะได้เห็นรายละเอียดต่างๆ ในแง่ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคทั่วไปอีกมาก ในช่วงที่มือถือ WP8 ใกล้จะวางขายราวๆ Q4 ปีนี้ ดังนั้นก็รอติดตามอ่าน "เจาะลึก Windows Phone 8 (ภาค 2)" ได้ในอนาคตครับ
ป.ล. ใครมีเวลาว่างก็ชมเทปบันทึกภาพงานเปิดตัว Windows Phone 8 ได้นะครับ ความยาว 2 ชั่วโมงเต็ม สำเนียงอเมริกันฟังไม่ยากเท่าไหร่ รับรองไม่ผิดหวังครับ